ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain)

ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดของมณฑลยูนนาน ประเทศจีน #แนะทริปออนทัวร์วันนี้ เราจะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักสถานที่แห่งนี้กันค่ะ มาดูกันว่าจะยิ่งใหญ่สมคำล่ำลือหรือเปล่า ทำไมถึงได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ที่หลายคนอยากจะไปพิชิตกัน

ภูเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองลี่เจียง โดยความสูงชันและยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดปี ทำให้ภูเขามังกรหยกเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยและธรรมชาติ สถาพแวดล้อมของที่นี่จะเป็นภูเขาหินปูนที่ทอดตัวยาวไปในแนวนอนตัดกับแกนโลก ความยาวประมาณ 35 กิโลเมตร และกว้างราว 20 กิโลเมตร ภูเขามีทั้งหมด 13 ยอด โดยยอดที่สูงที่สุดมีชื่อว่า "ยอดซานจื่อโต่ว" (Shanzidou Peak) ซึ่งมีความสูงประมาณ 5,596 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถูกปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี จึงเป็นที่มาของชื่อ “ภูเขาหิมะมังกรหยก” ที่สะท้อนถึงความงดงามและความยิ่งใหญ่ของภูเขาแห่งนี้

ความสำคัญทางธรรมชาติและวัฒนธรรม

ภูเขาหิมะมังกรหยกถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของชาวนาซี (Naxi) ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในเขตลี่เจียง พวกเขานับถือภูเขาแห่งนี้เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ และเชื่อว่าภูเขาเป็นที่สถิตของเทพเจ้า ชาวนาซีจึงมีความเชื่อและพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับภูเขานี้มาตั้งแต่โบราณ นอกจากนี้ภูเขาหิมะมังกรหยกยังเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์หายากหลายชนิด ทั้งพืชพันธุ์ป่าดิบเขาและสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในเขตภูมิอากาศหนาวเย็น เช่น เสือดาวหิมะ ละมั่ง และนกต่างๆ ที่อาศัยอยู่บนภูเขานี้ ระบบนิเวศที่นี่ถือเป็นแหล่งศึกษาวิจัยด้านธรรมชาติที่สำคัญด้วยค่ะ

กิจกรรมการท่องเที่ยว

ภูเขาหิมะมังกรหยก เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการปีนเขาและการชมวิวธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปยังจุดชมวิวต่างๆ ที่ตั้งอยู่บนความสูงหลายระดับ โดยจุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ “กลาเซียพาร์ค” (Glacier Park) ซึ่งตั้งอยู่ที่ความสูงกว่า 4,500 เมตร ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับทิวทัศน์ที่งดงามของหิมะและธารน้ำแข็งได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านของชาวนาซี ที่เรียกว่า "Impression Lijiang" การแสดงนี้จัดขึ้นกลางแจ้ง โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะมังกรหยกและมีนักแสดงเป็นชาวบ้านพื้นเมือง การแสดงจะเล่าถึงประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของชาวนาซี ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ของชนเผ่านี้อย่างเต็มที่

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยกคือช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ช่วงเดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤศจิกายน เพราะอากาศจะเย็นสบายและท้องฟ้าปลอดโปร่ง ในช่วงนี้ทิวทัศน์ของหิมะที่ปกคลุมยอดเขาและทุ่งหญ้าสีเขียวจะเป็นภาพที่สวยงามเป็นพิเศษ ภูเขาหิมะมังกรหยกไม่เพียงแต่เป็นจุดท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ การได้มาเยือนภูเขานี้เป็นโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาวพื้นเมืองในเวลาเดียวกัน

เกร็ดความรู้

กำเนิดภูเขาหิมะมังกรหยก (Yulong Snow Mountain) เกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาและภูมิประเทศซึ่งเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายล้านปี ประกอบด้วย

- การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก เกิดการชนกันของแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียและแผ่นเปลือกโลกอินเดีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย ทำให้เกิดการยกตัวขึ้นของภูเขาและเทือกเขาต่างๆ

- การกัดกร่อนและการสะสมตัวเมื่อน้ำแข็งและหิมะละลาย ส่งผลให้ภูมิประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ

- ภูมิอากาศหนาวเย็นและการสะสมตัวของหิมะ ด้วยยอดเขาที่สูงที่สุดสูงถึง 5,596 เมตร ทำให้พื้นที่บนภูเขามีอุณหภูมิต่ำและมีการสะสมตัวของหิมะและน้ำแข็งตลอดปี กลายเป็นภูเขาหิมะที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะอยู่เสมอ

- การกัดกร่อนของธารน้ำแข็ง การเคลื่อนตัวของธารน้ำแข็งในช่วงเวลานาน ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของภูเขาและภูมิประเทศ ทำให้พื้นที่มีลักษณะสูงชันและมีสันเขาที่เป็นเอกลักษณ์

ดังนั้น ภูเขาหิมะมังกรหยกจึงเกิดขึ้นจากกระบวนการทางธรรมชาติที่ซับซ้อน ทั้งการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกและการกัดกร่อนจากธารน้ำแข็ง